วันนี้เราจะมาเล่าประวัติความเป็นมาว่าญี่ปุ่นเองก็เคยพบปัญหา pm2.5 เช่นกัน พวกเขาผ่านมันมาได้อย่างไร
บรรยากาศขมุกขมัว อากาศเป็นพิษในช่วงปี1944 โชวะที่19
ช่วงปีค.ศ.1868-1912 ญี่ปุ่นได้มีเป้าหมายในการพัฒนาอุตสาหกรรมประเทศให้ทันสมัยใกล้เคียงกับยุโรป จึงทำให้เกิดการก่อสร้างทั้งโรงงานและอุตสาหกรรมต่างๆ ขึ้นมากมายนี่เป็นจุดเริ่มต้นของ pm2.5 ในญี่ปุ่น เมื่อเข้าสู่ช่วงปีค.ศ.1912-1926 ธุรกิจอุตสาหกรรมปั่นด้าย, อุตสาหกรรมการกลั่นทองแดง, อุตสาหกรรมเหล็ก ได้ขยายกว้างมากขึ้นจึงเป็นเหตุให้ pm2.5 เริ่มมีความรุนแรงมากขึ้น รวมถึงมีผู้ใช้รถยนต์เพิ่มมากขึ้น ยิ่งทำให้อากาศเป็นพิษรุนแรงยิ่งขึ้นโดยเฉพาะช่วงปีค.ศ.1945 หลังสงครามโลกครั้งที่2จบลง ยิ่งมีการพยายามปรับปรุงซ่อมแซมพัฒนาเมืองมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ยิ่งรุนแรงขึ้นไปอีก
ญี่ปุ่นเคยมีควันพิษเยอะขนาดต้นไม้ยังตาย ภูเขาโล้นทั้งลูก!!
ช่วงปีค.ศ.1965-1974 เป็นช่วงพีคของสารพิษของเสียในอากาศและน้ำ อาจจะรุนแรงกว่า pm2.5 ในตอนนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะอากาศเป็นพิษขนาดต้นไม้ตายทั้งภูเขาเลยค่ะ เพราะระบบนิเวศน์ของบริเวณใกล้โรงงานทั้งหมดถูกทำลายลง อากาศที่เป็นพิษ น้ำที่มีสารพิษเจือปน ฝนที่เป็นกรด ต้นไม้ตาย ประชาชนต่างออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลจัดการกับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษนี้จนในที่สุดก็ได้มีการออกกฏหมายคุ้มครองสิ่งแวดล้อม และออกกฏหมายเข้มงวดกับโรงงานมากขึ้น
ช่วงปีค.ศ.1974ยุคของน้ำมัน
ช่วงปีค.ศ.1974 เป็นยุคที่ญี่ปุ่นใช้พลังงานน้ำมันเป็นหลักในการทำอุตสาหกรรม รวมถึงรถยนต์ที่ใช้น้ำมันพ่นไอเสีย อุตสาหกรรมโรงงานยังคงดำเนินต่อไปควันพิษยังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่องแม้จะมีกฏหมายออกมาแล้วก็ตาม
ช่วงปีค.ศ.1985-2000 การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของญี่ปุ่น
เมื่อกฏหมายการปล่อยควันเสียและน้ำเสียของโรงงานมีการคุมเข้มมากขึ้น มีการรณรงค์ให้บริษัทต่างๆประหยัดพลังงาน จึงทำให้มีปริมาณควันพิษและน้ำเสียลดลงก็จริงแต่ปัญหา pm2.5 ที่เกิดจากไนโตรเจนออกไซด์กลับพุ่งสูงขึ้นเพราะท่อไอเสียจากรถยนต์ รุนแรงถึงขั้นมีผู้ป่วยเป็นโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง
เมื่อปัญหานี้กลายเริ่มกลายเป็นปัญหาระดับโลก
ช่วงปีค.ศ.1990 ปัญหาสภาพแวดล้อมได้กลายเป็นที่ตระกันในทั่วโลก ปัญหาที่พบในแต่ละประเทศมีทั้งชั้นโอโซนทีบางลงทำให้อุณหภูมิโลกร้อนขึ้น เกิดภาวะโลกร้อน ในบางประเทศถึงกับมีฝนกรด ญี่ปุ่นจึงได้เริ่มแก้ไขปัญหาในประเทศอย่างจริงจังมากขึ้นอีกระดับ โดยเริ่มมีการรีไซเคิลเครื่องใช้ไฟฟ้า และขยะอื่นๆมากขึ้น จนแม่น้ำและป่าภูเขาของญี่ปุ่นค่อยๆกลับมาเป็นปกติ
ปีค.ศ.2001 มาจนถึงปัจจุบัน
ปัญหา pm2.5 ของญี่ปุ่นได้คลี่คลายลง มีอากาศที่บริสุทธิ์ในการหายใจ มีน้ำใสในธาร มีสินค้าการเกษตรที่มาจากการเติบโตในธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ กว่าญี่ปุ่นจะมาเป็นประเทศที่อยู่ร่วมกันระหว่างเทคโนโลยีและธรรมชาติได้ ก็ใช้เวลายาวนานหลายปี ในเมื่อการเติบโตของอุตสาหกรรมนั้นหยุดไม่ได้ เราก็ควรทำมันด้วยวิธีที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
วิธีป้องกันตนจาก pm2.5
1.สวมหน้ากากอนามัยและสวมแว่น ละอองฝุ่งควันทั้งหลายนอกจากจะเข้าผ่านทางลมหายใจแล้ว เมื่อเข้าตามากๆอาจทำให้ตาอักเสบได้ด้วย หรือผิวหนังเกิดอาการแพ้อักเสบขึ้นมา การใช้ผ้าปิดปากและใส่แว่น จะช่วยปกป้องละอองที่ปลิวเข้าตาได้ระดับหนึ่งด้วย2.ใช้เสปรย์บล็อคpm2.5 ใครคิดว่าไม่ได้ผล บอกเลยว่าหากไม่ผิวแพ้ก่อนคงไม่รู้หรอกว่าได้ผลไหม แอดมินผ่านมาแล้ว ช่วงที่แพ้เนี่ย วันที่ฉีดกับไม่ฉีดก่อนออกจากบ้านต่างกันมากเลย ช่วยป้องกันผิวโดนpm2.5 ป้องกันก่อนจะแพ้ดีกว่านะคะ ไม่ต้องเสียตังซ่อมหน้าต่อ
3.งดทำกิจกรรมกลางแจ้ง หากต้องการออกกำลังกายให้ออกในที่ร่ม งดกิจกรรมกลางแจ้งเพื่อสุขภาพระยะยาว
4.ใช้เครื่องฟอกอากาศที่สามารถกรอง pm2.5 โปรดสังเกตเครื่องฟอกอากาศก่อนซื้อว่าสามารถกรองได้หรือไหม
★ คูปองส่วนลดในการช็อปปิ้งญี่ปุ่น หรือโปรแกรมแปลภาษาสินค้าต้อง IKIDANE App★ iOS / Android ★IKIDANE NIPPON LINE@★
หากชอบบทความของเรา สามารถติดตาม Facebook FanPage ของเราได้