(Source: なめ/PIXTA)
ซานจูโทที่มีสีสันสวยงามนี้นั้นได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกสำคัญทางวัฒนธรรม อาจจะเห็นว่าสีสันนั้นสดใหม่ราวกับเพิ่งสร้าง แต่ความจริงแล้วสร้างเสร็จเริ่มแรกในศตวรรษที่ 18 ภายในซานจูโทนั้นเป็นที่ประดิษฐานของพระคถาคตทั้งห้า โดยรอบนั้นมีรูปปั้นแกะสลักของ "พระอรหันต์ทั้ง 16 (Jurokurakan)"
(Source: なめ/PIXTA)
กัคคุโดที่สร้างขึ้นในปลายสมัยเอโดะนั้น เป็นสถานที่แขวนป้ายขอพรหรือเอะมะของผู้ที่มาสักการะ เป็นสถานที่ต้นแบบที่เชื่อกันว่าสามารถล่วงรู้ถึงภพหน้าของผู้ที่เชื่อถือได้ โดยแผ่นป้ายนั้นจะสลักชื่อและเลขห้องไว้โดยไม่ซ้ำแบบกัน ถือว่าเป็นศิลปะอย่างหนึ่งเลยทีเดียว
(Source: 東京凸凹ラビリンス徘徊記by電チャリ Ⅱ)
อิซไซเคียวไซนั้นเป็นที่รวบรวมบทสูตรซึ่งถูกเก็บรวบรวมไว้ภายในหอนี้ กล่าวกันว่าหากหมุนหนึี่งรอบจะได้รับพรเสมือนกับอ่านบทสูตรจบทั้งหมด ปัจจุบันนั้นเป็นที่จัดเก็บมรดกทางวัฒนธรรมจึงไม่สามารถหมุนวนได้ แต่ด้วยความใหญ่ของตัวหอนั้นก็ควรค่าแก่การเที่ยวชม
(Source: ロマ/PIXTA)
(Source: なめ/PIXTA)
ซานจูโทที่มีสีสันสวยงามนี้นั้นได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกสำคัญทางวัฒนธรรม อาจจะเห็นว่าสีสันนั้นสดใหม่ราวกับเพิ่งสร้าง แต่ความจริงแล้วสร้างเสร็จเริ่มแรกในศตวรรษที่ 18 ภายในซานจูโทนั้นเป็นที่ประดิษฐานของพระคถาคตทั้งห้า โดยรอบนั้นมีรูปปั้นแกะสลักของ "พระอรหันต์ทั้ง 16 (Jurokurakan)"
(Source: なめ/PIXTA)
กัคคุโดที่สร้างขึ้นในปลายสมัยเอโดะนั้น เป็นสถานที่แขวนป้ายขอพรหรือเอะมะของผู้ที่มาสักการะ เป็นสถานที่ต้นแบบที่เชื่อกันว่าสามารถล่วงรู้ถึงภพหน้าของผู้ที่เชื่อถือได้ โดยแผ่นป้ายนั้นจะสลักชื่อและเลขห้องไว้โดยไม่ซ้ำแบบกัน ถือว่าเป็นศิลปะอย่างหนึ่งเลยทีเดียว
(Source: 東京凸凹ラビリンス徘徊記by電チャリ Ⅱ)
อิซไซเคียวไซนั้นเป็นที่รวบรวมบทสูตรซึ่งถูกเก็บรวบรวมไว้ภายในหอนี้ กล่าวกันว่าหากหมุนหนึี่งรอบจะได้รับพรเสมือนกับอ่านบทสูตรจบทั้งหมด ปัจจุบันนั้นเป็นที่จัดเก็บมรดกทางวัฒนธรรมจึงไม่สามารถหมุนวนได้ แต่ด้วยความใหญ่ของตัวหอนั้นก็ควรค่าแก่การเที่ยวชม
(Source: ロマ/PIXTA)