(Source: windybear / PIXTA)
(Source: トレッキングから登山)
หากข้ามสะพานแดงที่แบ่งกั้นระหว่างโลกมนุษย์และโลกหลังความตายและถึง "ซันมง" แล้ว โลกหลังจากนั้นก็จะเป็นโลกแห่งดวงวิญญาณ ถึงจะมีผู้คนมากมายแต่ทว่าบรรยากาศก็ยังเงียบสงัด ได้ยินเพียงแค่เสียงหมุนของกังหันลมเท่านั้น หากไปต่อจากนี้ก็จะผ่านพื้นที่โขดหินที่ขุขระและพบกับทัศนียภาพของนรกอันหมองหม่น
(Source: 夢・心・彩・純のページ)
สถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปของพระกษิติครรภโพธิสัตว์ จะเปิดให้ทำการสักการะได้ 3 ครั้งใน 1 วัน (6:30, 11:00, 14:00) ฉากหลังของสถานที่นี้คือภูเขาจิโซที่ปกคลุมด้วยหมอก ทางเดินทั้งสองข้างจะมีกระท่อมเล็กๆ 4 ที่ซึ่งภายในจะมีออนเซ็น ผู้ที่มาสักการะสามารถเข้าไปแช่ได้ตามอัธยาศัย
(Source: まじすかのバタバタライフ.....)
(Source: まじすかのバタバタライフ.....)
บรรยากาศอันโหดร้ายตามชื่อซึ่งเทียบได้กับขุมนรกอเวจีสามารถพบเจอได้อย่างต่อเนื่องที่สถานที่แห่งนี้ เนื่องจากมีสถานที่ที่ปล่อยแก๊ซซัลฟิวรัสระหว่างทางอันขรุขระของโขดหินราวกับนรก จึงแนะนำให้พกผ้าเช็ดหน้าหรือผ้าปิดปากติดตัวไปด้วย
(Source: うげい / PIXTA)
สถานที่ที่วางหินก้อนเล็กทับขึ้นไปอันแสดงถึงการบรรเทาความทุกข์ของพ่อแม่ที่มีลูกที่เสียชีวิตก่อน กล่าวกันว่าหากสามารถวางหินซ้อนกันสำเร็จจะสามารถไปสู่สุขติได้ ซึ่งมีนักเดินทางหรือนักแสวงบุญหลายท่านที่ช่วยซ้อนหินต่อขึ้นไป ด้านข้างของไซโนะคาวาระนั้นได้มีการวางกังหันลมไว้จำนวนมาก เพื่อเป็นของเล่นสำหรับเด็กในโลกของวิญญาณ
(Source: Plum Heart)
(Source: tn-photo / PIXTA)
เมื่อข้ามผ่านนรกที่เต็มไปด้วยกลิ่นกำมะถันแล้ว ก็จะเจอกับทัศนียภาพจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงของหาดโกคุระคุ หาดขาวสวยที่ทำให้นึกถึงสวรรค์แห่งนี้นั้น ถึงจะดูเงียบเหงาแต่ก็เป็นที่ที่วิเศษมาก สีน้ำเงินโคบอลท์ของผืนทะเลสาบนั้น หากมองไปซักพักความสงบก็จะมาเยืิอนในจิตใจ
(Source: むつ来さまい館)
แม่น้ำซันสึที่อยู่ระหว่างภพนี้และภพหน้าและสะพานไทโกะที่ทาสีแดง กล่าวกันว่าคนบาปจะมองเห็นสะพานนี้เล็กราวกับเข็มทำให้ไม่สามารถข้ามสะพานไปได้ ใกล้ๆสะพานนั้นจะมีรูปปั้นหินของดัทสึเอบะผู้ที่จะทำการฉีกเสื้อของผู้ตายออก และเคนเนะโอผู้ที่จะทำการวัดบุญบาปของผู้ตาย
(Source: tabikaze / PIXTA)
(Source: (公社)むつ市観光協会)
หากพูดถึงภูเขาโอโซเระนั้น "ลัทธิร่างทรง" มีชื่อเสียงมาก ลัทธินี้นั้นจะให้วิญญาณสิงร่างและใช้วิชาของร่างทรงเพื่อที่จะฟังคำของผู้ตายมาให้ เทศกาลเรไทไซในช่วงฤดูร้อน (20-24 ก.ค.) และช่วงอะกิไมริ (ปลายเดือน ต.ค.) นั้นจะคับคั่งไปด้วยผู้คนที่ต่อแถวเข้าห้องของร่างทรง
(Source: 吟遊詩人リギアの一里毎 【ヒトリゴト】)
(Source: windybear / PIXTA)
(Source: トレッキングから登山)
หากข้ามสะพานแดงที่แบ่งกั้นระหว่างโลกมนุษย์และโลกหลังความตายและถึง "ซันมง" แล้ว โลกหลังจากนั้นก็จะเป็นโลกแห่งดวงวิญญาณ ถึงจะมีผู้คนมากมายแต่ทว่าบรรยากาศก็ยังเงียบสงัด ได้ยินเพียงแค่เสียงหมุนของกังหันลมเท่านั้น หากไปต่อจากนี้ก็จะผ่านพื้นที่โขดหินที่ขุขระและพบกับทัศนียภาพของนรกอันหมองหม่น
(Source: 夢・心・彩・純のページ)
สถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปของพระกษิติครรภโพธิสัตว์ จะเปิดให้ทำการสักการะได้ 3 ครั้งใน 1 วัน (6:30, 11:00, 14:00) ฉากหลังของสถานที่นี้คือภูเขาจิโซที่ปกคลุมด้วยหมอก ทางเดินทั้งสองข้างจะมีกระท่อมเล็กๆ 4 ที่ซึ่งภายในจะมีออนเซ็น ผู้ที่มาสักการะสามารถเข้าไปแช่ได้ตามอัธยาศัย
(Source: まじすかのバタバタライフ.....)
(Source: まじすかのバタバタライフ.....)
บรรยากาศอันโหดร้ายตามชื่อซึ่งเทียบได้กับขุมนรกอเวจีสามารถพบเจอได้อย่างต่อเนื่องที่สถานที่แห่งนี้ เนื่องจากมีสถานที่ที่ปล่อยแก๊ซซัลฟิวรัสระหว่างทางอันขรุขระของโขดหินราวกับนรก จึงแนะนำให้พกผ้าเช็ดหน้าหรือผ้าปิดปากติดตัวไปด้วย
(Source: うげい / PIXTA)
สถานที่ที่วางหินก้อนเล็กทับขึ้นไปอันแสดงถึงการบรรเทาความทุกข์ของพ่อแม่ที่มีลูกที่เสียชีวิตก่อน กล่าวกันว่าหากสามารถวางหินซ้อนกันสำเร็จจะสามารถไปสู่สุขติได้ ซึ่งมีนักเดินทางหรือนักแสวงบุญหลายท่านที่ช่วยซ้อนหินต่อขึ้นไป ด้านข้างของไซโนะคาวาระนั้นได้มีการวางกังหันลมไว้จำนวนมาก เพื่อเป็นของเล่นสำหรับเด็กในโลกของวิญญาณ
(Source: Plum Heart)
(Source: tn-photo / PIXTA)
เมื่อข้ามผ่านนรกที่เต็มไปด้วยกลิ่นกำมะถันแล้ว ก็จะเจอกับทัศนียภาพจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงของหาดโกคุระคุ หาดขาวสวยที่ทำให้นึกถึงสวรรค์แห่งนี้นั้น ถึงจะดูเงียบเหงาแต่ก็เป็นที่ที่วิเศษมาก สีน้ำเงินโคบอลท์ของผืนทะเลสาบนั้น หากมองไปซักพักความสงบก็จะมาเยืิอนในจิตใจ
(Source: むつ来さまい館)
แม่น้ำซันสึที่อยู่ระหว่างภพนี้และภพหน้าและสะพานไทโกะที่ทาสีแดง กล่าวกันว่าคนบาปจะมองเห็นสะพานนี้เล็กราวกับเข็มทำให้ไม่สามารถข้ามสะพานไปได้ ใกล้ๆสะพานนั้นจะมีรูปปั้นหินของดัทสึเอบะผู้ที่จะทำการฉีกเสื้อของผู้ตายออก และเคนเนะโอผู้ที่จะทำการวัดบุญบาปของผู้ตาย
(Source: tabikaze / PIXTA)
(Source: (公社)むつ市観光協会)
หากพูดถึงภูเขาโอโซเระนั้น "ลัทธิร่างทรง" มีชื่อเสียงมาก ลัทธินี้นั้นจะให้วิญญาณสิงร่างและใช้วิชาของร่างทรงเพื่อที่จะฟังคำของผู้ตายมาให้ เทศกาลเรไทไซในช่วงฤดูร้อน (20-24 ก.ค.) และช่วงอะกิไมริ (ปลายเดือน ต.ค.) นั้นจะคับคั่งไปด้วยผู้คนที่ต่อแถวเข้าห้องของร่างทรง
(Source: 吟遊詩人リギアの一里毎 【ヒトリゴト】)