(Source: pixta)
"สะพานสึรุโนะไม" ที่เชื่อมต่อสองฟากของทะเลสาบสึงารุฟุจิมินั้น มีความยาวทั้งหมด 300 เมตร เป็นสะพานโค้งมนเชื่อมกันสามอันสร้างด้วยไม้ไซปรัสทั้งหมด เพื่อที่จะรักษาความสมดุลของธรรมชาติในบริเวณใกล้เคียงไว้ ต้นไม้ไซปรัสของอาโอโมริที่มีอายุเก่าแก่กว่า 150 ปีจำนวน 700 ต้นถูกนำมาใช้เพื่อสร้างขาสะพานด้วยเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ของญี่ปุ่น ความสวยงามที่ปราณีตนี้ถือว่ามีคุณค่ามาก
(Source: pixta)
ความสวยงามของ "สะพานสึรุโนะไม" นั้นสามารถชมได้ในช่วงเข้าและเย็น ในข่วงเช้านั้นพระอาทิตย์จะขึ้นจากด้านซ้ายข้างหลัง "สะพานสึรุโนะไม" ทำให้รอบๆนั้นปกคลุมไปด้วยบรรยากาศเหมือนฝัน ส่วนช่วงเย็นนั้นผืนน้ำของทะเลสาบสึงารุฟุจิมิจะถูกย้อมไปด้วยสีลูกท้อ ทำให้ภาพของสะพานที่ลอยบนผืนทะเลสาบนั้นไม่มีที่ติ
ช่วงเช้า
(Source: pixta)
ช่วงเย็น
(Source: pixta)
เมืองสึรุทะมะจิที่ตั้งของ "สะพานสึรุโนะไม" นั้นจะมีหิมะตกหนักทุกปี โดยตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงมีนาคมนั้นจะไม่สามารถข้ามสะพานได้ แต่ทว่าก็สามารถชมความสวยงามของสะพานที่ปกคลุมไปด้วยหิมะจากที่ไกลๆได้ ขอให้ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่สงบนิ่งและทัศนียภาพของฤดูหนาวนะ
(Source: pixta)
ทะเลสาบสึงารุฟุจิมิที่มีสะพานสึรุโนะไมพาดผ่านนั้น มีตำนานที่เล่าขานกันแม่ตั้งแต่สมัยก่อน ซึ่งเป็นเรื่องราวความรักอันโศกเศร้าของเจ้าของปราสาทผู้ปกครองเมิืองสึรุทะมะจิและหญิงสาวในเมือง โดยเจ้าของปราสาทได้ไปแต่งงานกับหญิงอื่น ทำให้หญิงสาวในเมืองผู้นั้นโศกเศร้าและทิ้งตัวเองลงในทะเลสาบ สุดท้ายความขมขื่นของหญิงสาวได้กลายเป็๋นมังกรขาว เฝ้าทำร้ายเจ้าของปราสาทผู้นั้นเรื่อยมา
(Source: pixta)
ฟุจิมิโกะปาร์คนั้นมีสถานที่สำหรับปิคนิคหรือสำหรับเล่น รวมถึงการตกปลาและชมทัศนียภาพขณะนั่งเรือ เป็นจุดยอดนิมสำหรับครอบครัว จากสวนธรรมชาตินกกะเรียนญี่ปุ่นนั้นสามารถชมนกกะเรียนญี่ปุ่นได้อีกด้วย
(Source: pixta)
(Source: pixta)
"สะพานสึรุโนะไม" ที่เชื่อมต่อสองฟากของทะเลสาบสึงารุฟุจิมินั้น มีความยาวทั้งหมด 300 เมตร เป็นสะพานโค้งมนเชื่อมกันสามอันสร้างด้วยไม้ไซปรัสทั้งหมด เพื่อที่จะรักษาความสมดุลของธรรมชาติในบริเวณใกล้เคียงไว้ ต้นไม้ไซปรัสของอาโอโมริที่มีอายุเก่าแก่กว่า 150 ปีจำนวน 700 ต้นถูกนำมาใช้เพื่อสร้างขาสะพานด้วยเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ของญี่ปุ่น ความสวยงามที่ปราณีตนี้ถือว่ามีคุณค่ามาก
(Source: pixta)
ความสวยงามของ "สะพานสึรุโนะไม" นั้นสามารถชมได้ในช่วงเข้าและเย็น ในข่วงเช้านั้นพระอาทิตย์จะขึ้นจากด้านซ้ายข้างหลัง "สะพานสึรุโนะไม" ทำให้รอบๆนั้นปกคลุมไปด้วยบรรยากาศเหมือนฝัน ส่วนช่วงเย็นนั้นผืนน้ำของทะเลสาบสึงารุฟุจิมิจะถูกย้อมไปด้วยสีลูกท้อ ทำให้ภาพของสะพานที่ลอยบนผืนทะเลสาบนั้นไม่มีที่ติ
ช่วงเช้า
(Source: pixta)
ช่วงเย็น
(Source: pixta)
เมืองสึรุทะมะจิที่ตั้งของ "สะพานสึรุโนะไม" นั้นจะมีหิมะตกหนักทุกปี โดยตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงมีนาคมนั้นจะไม่สามารถข้ามสะพานได้ แต่ทว่าก็สามารถชมความสวยงามของสะพานที่ปกคลุมไปด้วยหิมะจากที่ไกลๆได้ ขอให้ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่สงบนิ่งและทัศนียภาพของฤดูหนาวนะ
(Source: pixta)
ทะเลสาบสึงารุฟุจิมิที่มีสะพานสึรุโนะไมพาดผ่านนั้น มีตำนานที่เล่าขานกันแม่ตั้งแต่สมัยก่อน ซึ่งเป็นเรื่องราวความรักอันโศกเศร้าของเจ้าของปราสาทผู้ปกครองเมิืองสึรุทะมะจิและหญิงสาวในเมือง โดยเจ้าของปราสาทได้ไปแต่งงานกับหญิงอื่น ทำให้หญิงสาวในเมืองผู้นั้นโศกเศร้าและทิ้งตัวเองลงในทะเลสาบ สุดท้ายความขมขื่นของหญิงสาวได้กลายเป็๋นมังกรขาว เฝ้าทำร้ายเจ้าของปราสาทผู้นั้นเรื่อยมา
(Source: pixta)
ฟุจิมิโกะปาร์คนั้นมีสถานที่สำหรับปิคนิคหรือสำหรับเล่น รวมถึงการตกปลาและชมทัศนียภาพขณะนั่งเรือ เป็นจุดยอดนิมสำหรับครอบครัว จากสวนธรรมชาตินกกะเรียนญี่ปุ่นนั้นสามารถชมนกกะเรียนญี่ปุ่นได้อีกด้วย
(Source: pixta)